ซีรีส์ Kaleidoscope ของ Netflix ที่นำแสดงโดย Giancarlo Esposito ผู้คร่ำหวอดในแฟรนไชส์ Breaking Bad และ Star Wars หลังจากซีรีส์นี้เพิ่งลงฉายบนสตรีมมิงไปไม่นานก็เกิดกระแสพูดถึงกันมากมาย เนื่องจากผู้ชมแต่ละบัญชีของ Netflix จะถูกจัดเรียงตอนต่างๆ ไม่เหมือนกันยกเว้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เราได้รวบรวมการดูแบบเรียงตอนในสไตล์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินตามลำดับเหตุการณ์ที่ตรงกับรสนิยมของคุณ

จากบทความบนเว็บไซต์ ComicBook.com ได้เผยวิธีการดูซีรีส์ Kaleidoscope แบบเรียงตอนตามสไตล์ต่างๆ ซึ่งในซีรีส์ Kaleidoscope จะมีทั้งหมด 8 ตอนด้วยกัน และได้ถ่ายทำในลักษณะที่คุณสามารถดูตามลำดับใดก่อนหรือหลังก็ได้ โดยในแต่ละตอนจะมีชื่อเป็นสีที่แตกต่างกัน ได้แก่ “Yellow”, “Green”, “Violet”, “Blue”, “Orange”, “Red”, “Pink” และตอนสุดท้ายก็คือ “White” ซึ่งเป็นวันที่ทำการปล้นนั่นเอง

ต่อไปนี้คือการดูแบบเรียงตอนตามรูปแบบต่างๆ:

หากคุณต้องการดูแบบเรียงตามลำดับเวลาเหตุการณ์จริง คุณควรรู้ก่อนว่าจริงๆ แล้วชื่อสีแต่ละตอนคือเหตุการณ์อะไร ซึ่งก็จะสามารถเรียงตามที่ซีรีส์ของ Netflix ได้ชี้แจงก็คือ:

• “Violet” คือ 24 ปีก่อนการปล้น
• “Green” คือ 7 ปีก่อนการปล้น
• “Yellow” คือ 5 สัปดาห์ก่อนการปล้น
• “Orange” คือ 3 สัปดาห์ก่อนการปล้น
• “Blue” คือ 5 วันก่อนการปล้น
• “White” คือ วันทำการปล้น
• “Red” คือ เช้าวันรุ่งขึ้นหลังการปล้น
• “Pink” คือ 6 เดือนหลังจากการปล้น

แต่ถ้าคุณอยากดูซีรีส์เรื่องนี้ในสไตล์หนังของ Quentin Tarantino ที่มักจะกระโดดข้ามเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเริ่มเรื่องราวด้วยความละเอียดในบริบทของการสื่อสาร และเติมเต็มภูมิหลังในขณะที่เรื่องราวในภาพยนตร์เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หากต้องการเช่นนั้นคุณจะต้องเรียงลำดับตามนี้ “Blue”, “Green”, “Yellow”, “Orange”, “Violet”, “Pink”, “White” และไปจบที่ “Red”

การรับชมในสไตล์ซีรีส์ Orange Is the New Black ของ Netflix ต้องเริ่มเรื่องเมื่อ 7 ปีก่อนหน้าก็คือตอน “Green” และย้อนไปไกลกว่านั้นอีกด้วย “Violet” ก่อนที่จะเลื่อนเวลาขึ้นด้วยลำดับที่สลับไปมาเล็กน้อย “Red”, “Orange”, “Yellow”, “Blue”, “White” และ “Pink”

หากคุณต้องการรับชม Kaleidoscope ในสไตล์แบบ “เรื่องราวนักสืบคลาสสิก” คุณต้องเริ่มต้นใน 3 สัปดาห์ก่อนการปล้นด้วย “Orange” จากนั้นเรื่องราวต้องเคลื่อนผ่าน “Green” และย้อนกลับไป “Violet” ตามด้วย “Red” แล้วปิดท้ายเรื่องราวด้วย “Yellow”, “Blue”, “White” และ “Pink”

สุดท้ายนี้ ซีรีส์ Kaleidoscope เป็นเรื่องราวอาชญากรรมที่น่าสนใจ โดยใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง ในการสร้างอุบายและความระทึกขวัญที่ไม่เหมือนใคร โดยสมาชิก Netflix แต่ละคนจะได้รับประสบการณ์การรับชมที่ชวนดื่มด่ำแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ชมทุกคนจะได้ดูตอนทั้งหมดในที่สุด แต่การเรียงลำดับตอนต่างๆ ที่พวกคุณดู จะส่งผลต่อมุมมองที่มีต่อเรื่องราว ตัวละคร ตลอดจนคำถามและคำตอบที่เป็นหัวใจของการปล้น

คุณสามารถสัมผัสสีสันของ Kaleidoscope ได้ทาง Netflix