บทความทั้งหมด    บทความสร้างอาชีพ    ความรู้ค้าขาย    ความรู้สร้างอาชีพ
10.0K
3 นาที
5 กรกฎาคม 2562
เปิดสูตรคิดต้นทุน ร้านสารพัดยำ ตั้งราคาแค่ไหน ไม่ให้เจ๊ง
 

 
เดินไปตามตลาดตอนเช้าหรือตอนเย็น เราจะเห็นร้านสารพัดยำ เปิดอยู่ทุกตลาด นี่คือสินค้าที่เรียกว่ากินได้ไม่มีเบื่อ หยิบเอาวัตถุดิบโน่น นี่ นั่น มาผสมก็อาจเป็นเมนูใหม่ให้เลือกกิน และด้วยรสชาติที่เผ็ด เปรี้ยว เป็นสำคัญ ทำให้เมนูยำเป็นอาหารจานหลักที่กินได้ทั้งกับข้าวและเป็นกับแกล้มได้ด้วย
 
ร้านสารพัดยำบางแห่งคนยืนมุงกันเพียบ ตักขายใส่ถุงกันแทบไม่ทันและส่วนใหญ่เราจะเห็นว่าร้านยำเหล่านี้จะขายดีขายหมดไม่มีเหลือแทบทุกครั้ง คนส่วนใหญ่ก็คิดไปว่าแบบนี้ กำไรดีแน่นอน แต่ในความจริง ร้านยำก็มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง

ด้วยราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น และวัตถุดิบเหล่านี้ต้องมีการซื้อแบบวันต่อวัน เรียกว่าต้นทุนเฉลี่ยค่อนข้างสูง ไม่รวมกับเรื่องรสชาติ ฝีมือ การเตรียมของ ที่พ่อค้าแม่ค้าจะต้องมีความอดทน และมีประสบการณ์ที่ดีในธุรกิจนี้พอสมควร มือใหม่ที่อยากเอาดีในการเปิดร้านยำ www.ThaiFranchiseCenter.com แนะนำว่าให้ศึกษาแนวทางการเปิดร้านให้ดีก่อน
 
อยากเปิดร้านสารพัดยำต้องมีอะไรบ้าง
 

ภาพจาก www.facebook.com/AfterYum/

1.ทุนสำหรับวัสดุ/อุปกรณ์ ประมาณ 6,500-12,000 บาท
  • รถเข็น หรือโต๊ะ ราคาประมาณ 700 -5,000 บาท                 
  • ถังแก๊ส โครงเตาแก๊ส  ราคาประมาณ  2,500 บาท
  • กะละมังสำหรับยำ ทัพพี ราคาประมาณ 300 บาท                 
  • ถ้วยใส่เครื่องปรุง ราคาประมาณ 500 บาท
  • ถาดใส่ของสด ราคาประมาณ 800-1,000 บาท                     
  • กระปุกใส่ของ ราคาประมาณ 500 บาท
  • ป้ายไวนิล ราคาประมาณ 300-500 บาท                               
  • ถุงร้อน ถุงหิ้ว ยางรัดของ ราคาประมาณ 300 บาท
  • หม้อต้มลวกของ กระชอนลวก ราคาประมาณ  500-1,000 บาท
2.ทุนสำหรับวัตถุดิบ ควรเลือกวัตถุดิบที่มีสดใหม่ทุกวัน เพื่อคงรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบเอาไว้ครับ ราคาประมาณ 2,000-3,500 บาท


ภาพจาก https://bit.ly/2XpsEwb
 
3.ทุนสำรอง ในส่วนนี้ควรมีสำรองไว้ครับ อาจจะค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ค่าซ่อมแซม ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น
 
เทคนิคการเปิดร้านสารพัดยำให้มีกำไรง่ายขึ้น
1.สำรวจทำเลที่ตั้ง 


ภาพจาก https://bit.ly/2XpsEwb

ทำเลที่ตั้งเพื่อเปิดร้านขายยำนั้น ควรจะเป็นที่มีผู้คนพลุกพล่าน เขตชุมชน ตลาด ซึ่งหากไม่ได้เปิดร้านที่มีขนาดใหญ่ อาจจะเป็นเพียงตั้งโต๊ะขายที่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้อยู่ใกล้เขตชุมชน ก็ควรสร้างจุดดึงดูดลูกค้าให้ได้
 
2.สำรวจกลุ่มเป้าหมาย
 
ลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มนักเรียน นักศึกษา วัยที่ต้องมาทานอาหารกันระหว่างพักกลางวัน แต่หากเปิดขายในช่วงเย็นๆ ก็อาจจะเจาะกลุ่มเป้าหมายตามทำเลก็ได้เช่นกัน 
 
3.สำรวจตลาด


ภาพจาก www.facebook.com/AfterYum/

สำรวจว่าบริเวณใกล้เคียงมีร้านขายยำลักษณะเดียวกับเราหรือไม่ มีกี่ร้าน ห่างหรือใกล้ร้านของเรากี่กิโลเมตร เป็นต้น ข้อดีของการรู้ว่ามีคู่แข่งคือจะได้สำรวจว่าเขามีเมนูอะไรที่ขายดี ราคาเท่าไหร่ เพื่อให้เราหาเมนูที่แตกต่างและตั้งราคาให้ไม่แตกต่างกันเพื่อลูกค้าจะได้ตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น
 
4.สำรวจตัวเอง 
 
ต้องสำรวจว่าเรามีความสามารถในการทำอาหารหรือไม่ หากอยากเปิดร้านขายยำ แต่ไม่มีความรู้ ไม่มีฝีมือ ก็สามารถฝึกฝนและหัดทำได้ สิ่งสำคัญคือใจรักบริการ และมีความอัธยาศัย มีมนุษยสัมพันธ์ดี 
 
5.สำรวจต้นทุน/ราคา
 

ภาพจาก www.facebook.com/AfterYum/

โดยให้สำรวจแหล่งวัตถุดิบดีๆ มีคุณภาพ ซึ่งแหล่งดีๆ ราคาไม่สูก็มีครับ ต้องสำรวจดูหลายๆ ที่เพื่อประกอบการตัดสินใจ บางอย่างซื้อได้ถูกกว่า ดีกว่า เป็นต้น

สูตรการคิดกำไรของร้านสารพัดยำ

 
เนื่องจากร้านสารพัดยำเป็นร้านที่มีวัตถุดิบหลากหลายและแต่ละวันอาจมีวัตถุดิบที่แตกต่างกันตามแต่เมนู ราคาการขายก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ราคาวัตถุดิบและประเภทของเมนู ภาพรวมของการคิดกำไรสูตรเบื้องต้นคือ
 
กำไร(ต่อเดือน)=(ต้นทุนวัตถุดิบหลัก+ต้นทุนคงที่+ต้นทุนผันแปร)/30
 

ภาพจาก www.facebook.com/AfterYum/

ยกตัวอย่างเช่นร้านยำขนาดเล็กที่อาจมีเมนู 4-5 อย่าง เช่น ยำหมูยอ ยำขาไก่ ลาบ น้ำตก ยำรวมมิตร วัตถุดิบหลักก็คือ หมูยอ ขาไก่ หมู กุ้ง ขึ้นอยู่กับว่าจะทำปริมาณมากน้อยแค่ไหน เบ็ดเสร็จต้นทุนวัตถุดิบหลักจ่ายตลาด 1 ครั้งไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ซึ่งวัตถุดิหลักนี้อาจเอามาแช่แข็งเก็บไว้และทำเมนูยำได้ 2-3 วัน ส่วนต้นทุนผันแปรก็คือ อุปกรณ์ยำที่ต้องมีการซื้อใหม่แทบทุกวันเช่น ผักชี ต้นหอม หรือจะเป็นพวกน้ำยำ หรือมะนาว พริกขี้หนู ต้นทุนผันแปรนี้ยังรวมค่าน้ำค่าไฟ ค่าบริหารจัดการเข้าไปด้วย 

ส่วนต้นทุนคงที่หลักๆ ก็คือค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดเป็นรายเดือน ดังนั้นการคิดกำไรจะใช้ต่อเดือนเป็นหลัก โดยรวมเอาต้นทุนทุกอย่างมาผสมรวมกันว่าแต่ละเดือนเราใช้จ่ายอะไรไปเท่าไหร่บ้าง แล้วเอเวลา 30 วันมาเป็นตัวหารจะทำให้ทราบได้คร่าวๆ ว่าค่าเฉลี่ยต่อการขายในแต่ละวันควรทำยอดให้ได้เท่าไหร่เพื่อจะได้ไม่ขาดทุน ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อวันนี้ก็จะไปกำหนดราคาขายของเมนูยำ 
 
แต่ในความเป็นจริงการตั้งราคาขายก็อาจจะอิงกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่เช่นราคา 30-40 บาทต่อเมนู นั่นหมายถึงเรารู้ต้นทุนของเราในแต่ละวันว่าใช้ไปเท่าไหร่เช่นวันนี้ซื้อวัตถุดิบรวมมาทั้งหมด 1,000 บาท ขาย 30-40 บาทก็ต้องขายให้ได้ 20 –35 ถุงเพื่อจะได้คืนทุน ขายมากกว่านี้คือมีกำไร
 

ภาพจาก https://bit.ly/2XpsEwb

ยังไม่รวมบางแห่งที่อาจมีการจ่ายค่าเช่าพื้นที่แบบรายวัน ต้นทุต่อวันก็จะเพิ่มขึ้นและยอดขายรวมเราก็ต้องทำเพิ่มขึ้น เมื่อเฉลี่ยมาเป็นต่อเดือนก็จะรู้กำหนดคร่าว ๆว่าควรขายสินค้าได้ปริมาณเท่าไหร่ถึงจะมีกำไรในแต่ละเดือน เพราะบางพื้นที่อาจมีค่าเช่าแบบรายเดือนไม่ใช่รายวัน
 
ทั้งนี้ร้านสารพัดยำบางร้านที่เปิดกิจการขนาดใหญ่มีเมนูให้เลือกมากมายและอาจมีทั้งแบบซื้อกลับบ้านหรือทานที่ร้านได้ ต้นทุนเฉลี่ยต่อวันต่อเดือนก็อาจจะสูงยิ่งขึ้นแต่รายได้ต่อวันก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกันยกตัวอย่าง ร้านแซ่บแสบปาก ที่มีเมนูให้ลูกค้าเลือกหลายหลายเมนู

อาทิ  ยำมะม่วงกุ้งสด ยำมะม่วงกั้งสด  ยำหอยนางรม ยำหอยแครง  ยำปูม้า ยำมะม่วงข้าวโพด-ไข่เค็ม และ ยำรวมมิตรทะเล ราคาเริ่มต้น 40-250 บาท ร้านนี้มีกำไรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันละ 1,500 บาท นั่นหมายถึงต่อเดือนมีกำไรเกินกว่า 40,000 บาท

แต่ก็เพราะเป็นร้านขนาดใหญ่ที่ทำมานาน มีฝีมือในการทำอาหารและมีบริการที่ดี คนที่สนใจเปิดร้านใหม่ๆ จะหวังให้ได้กำไรขนาดนี้คงต้องใช้เวลาในการสะสมประสบการณ์ แนะนำว่าให้เริ่มจากร้านขนาดเล็กและค่อยเติบโตไปอย่างแข็งแรงจะดีกว่า
 
*** สูตรการคิดคำนวณราคาดังกล่าวนี้ มีตัวแปรที่ต้องเอามาคิดรวมกันอีกหลายอย่างทั้งค่าการตลาด ค่าเช่าพื้นที่ ต้นทุนผันแปรของแต่ละบุคคล ราคาเบื้องต้นจึงเป็นค่าประมาณการณ์ให้พอมองเห็นภาพและแนวทางในการคิดเบื้องต้น***
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
“เมนูหมูๆ” ไม่ว่าจะหมูปิ้งข้าวเหนียว หรือว่า หมูสะเต๊ะ  จุดเด่นคือเป็นอาหารทานง่ายๆ ราคาไม่แพง คนที่คิดอะไรไม่ออก ก็เลือกลงทุนกับร้านหมูปิ้งหรือหมูสะเต๊ะ เพราะเชื่อว่าไงก็ขายได้แน่ ไม้ละ 3 - 5 บาท ขายได้สักวันละ 100 ไม้ (ขายทั้งวันไม่ใช่แค่ช่วงเช้าหรือเย็น) รายได้ต่อวันก็ ..
60months ago   3,363  5 นาที
อาหารจานหลักของคนไทยรองจากข้าวก็คงจะเป็น “ก๋วยเตี๋ยว” จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวคือการปรุงสด ได้ซดน้ำ รับประทานได้คล่องคอแถมยังมีสารอาหารครบถ้วนและมีหลายเมนูให้เลือก แถมราคาก็รับได้ขั้นต่ำ 30-35 บางร้านอาจถึง 45-50 บาทก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของร้านและวัตถุดิบที่แต่ละร้านนำมาใช้ ไม่น่าแปล..
61months ago   6,723  5 นาที
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความสร้างอาชีพมาใหม่
บทความอื่นในหมวด